ฮ้องขวัญ เป็นภาษาถิ่นเฉพาะของชาวล้านนา
พิธีฮ้องขวัญ หรือบางทีเรียก พิธีเรียกขวัญ หรือพิธีสู่ขวัญ
เป็นความเชื่อสะท้อนการผสมผสานเรื่องของขวัญกับพุทธศาสนา
และอำนาจลี้ลับเหนือ ธรรมชาติ
พิธีกรรมลักษณะนี้อยู่บนรากฐานความเชื่อทางวัฒนธรรมในวิถีชีวิตของคนไทยในทุกท้องถิ่น
แต่มีการปรับเปลี่ยนไปตาม วัฒนธรรมเฉพาะของท้องถิ่นนั้น
คำว่า “ขวัญ” หมายถึง ผมหรือขนที่ขึ้นเวียนเป็นก้นหอย… สิ่งที่ไม่มีตัวตน เชื่อกันว่า
มีอยู่ประจำชีวิตของคนมาตั้งแต่เกิด ถ้าขวัญอยู่กับตัว ก็จะเป็นสิริมงคล เป็นสุขสบาย จิตใจมั่นคง
พิธีฮ้องขวัญ หรือบางทีเรียก พิธีเรียกขวัญ หรือพิธีสู่ขวัญ
เป็นความเชื่อสะท้อนการผสมผสานเรื่องของขวัญกับพุทธศาสนา
และอำนาจลี้ลับเหนือ ธรรมชาติ
พิธีกรรมลักษณะนี้อยู่บนรากฐานความเชื่อทางวัฒนธรรมในวิถีชีวิตของคนไทยในทุกท้องถิ่น
แต่มีการปรับเปลี่ยนไปตาม วัฒนธรรมเฉพาะของท้องถิ่นนั้น
คำว่า “ขวัญ” หมายถึง ผมหรือขนที่ขึ้นเวียนเป็นก้นหอย… สิ่งที่ไม่มีตัวตน เชื่อกันว่า
มีอยู่ประจำชีวิตของคนมาตั้งแต่เกิด ถ้าขวัญอยู่กับตัว ก็จะเป็นสิริมงคล เป็นสุขสบาย จิตใจมั่นคง
ชาวล้านนามีความเชื่อกันว่าขวัญจะอยู่ ประจำตัวเป็นพลังที่ช่วยในการปกป้องรักษาเจ้าของขวัญ
ให้มีความอยู่เย็นเป็นสุขไม่ เจ็บไม่ป่วย แต่เมื่อใดที่ขวัญอ่อนลงหรือออกจากร่าง
จะเป็นเหตุให้สภาวะของร่างกายและจิตใจของเจ้าของขวัญรู้สึกเสียใจ ตกใจ ท้อใจ อาจเรียกได้ว่า ขวัญหาย ขวัญหนีดีฝ่อ
ขวัญเสียหรือเสียขวัญ ทำให้เจ้าของขวัญเจ็บป่วย กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่มีกำลังใจ ในการดำเนินชีวิต
ถ้าต้องการให้ขวัญกลับคืนสู่ตัวและชีวิตเป็นปกติสุข จำเป็นต้องทำพิธีฮ้องขวัญ และโอกาสที่ใช้ในการฮ้องขวัญ มีหลายลักษณะ เช่น การฮ้องขวัญเกี่ยวกับคน ได้แก่ การเรียกขวัญคนเจ็บไข้ได้ป่วย ขวัญคนที่ประสบอุบัติเหตุ ขวัญเด็ก ขวัญสามเณร ขวัญนาค ขวัญบ่าวสาว ขวัญผู้ใหญ่ที่เคารพ การฮ้องขวัญของผู้ที่มีการเปลี่ยนผ่านสถานภาพ
(เปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ การงาน เปลี่ยนที่อยู่อาศัย จบการศึกษา) การฮ้องขวัญผู้มาเยือน
เป็นการสร้างความสัมพันธ์ให้เกียรติแขกที่มาเยือน การฮ้อง ขวัญหลังจากการทำเกษตรที่ใช้แรงงานแล้ว
เป็นการแสดงความกตัญญูและการขอขมาลาโทษ ได้แก่ ขวัญข้าวขวัญควาย
และการฮ้องขวัญสิ่งของเพื่อเสริมสร้างความอุ่นใจแก่เจ้าของผู้ใช้ ได้แก่ ขวัญบ้าน ขวัญเสาเรือน ขวัญเกวียน เป็นต้น
ให้มีความอยู่เย็นเป็นสุขไม่ เจ็บไม่ป่วย แต่เมื่อใดที่ขวัญอ่อนลงหรือออกจากร่าง
จะเป็นเหตุให้สภาวะของร่างกายและจิตใจของเจ้าของขวัญรู้สึกเสียใจ ตกใจ ท้อใจ อาจเรียกได้ว่า ขวัญหาย ขวัญหนีดีฝ่อ
ขวัญเสียหรือเสียขวัญ ทำให้เจ้าของขวัญเจ็บป่วย กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่มีกำลังใจ ในการดำเนินชีวิต
ถ้าต้องการให้ขวัญกลับคืนสู่ตัวและชีวิตเป็นปกติสุข จำเป็นต้องทำพิธีฮ้องขวัญ และโอกาสที่ใช้ในการฮ้องขวัญ มีหลายลักษณะ เช่น การฮ้องขวัญเกี่ยวกับคน ได้แก่ การเรียกขวัญคนเจ็บไข้ได้ป่วย ขวัญคนที่ประสบอุบัติเหตุ ขวัญเด็ก ขวัญสามเณร ขวัญนาค ขวัญบ่าวสาว ขวัญผู้ใหญ่ที่เคารพ การฮ้องขวัญของผู้ที่มีการเปลี่ยนผ่านสถานภาพ
(เปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ การงาน เปลี่ยนที่อยู่อาศัย จบการศึกษา) การฮ้องขวัญผู้มาเยือน
เป็นการสร้างความสัมพันธ์ให้เกียรติแขกที่มาเยือน การฮ้อง ขวัญหลังจากการทำเกษตรที่ใช้แรงงานแล้ว
เป็นการแสดงความกตัญญูและการขอขมาลาโทษ ได้แก่ ขวัญข้าวขวัญควาย
และการฮ้องขวัญสิ่งของเพื่อเสริมสร้างความอุ่นใจแก่เจ้าของผู้ใช้ ได้แก่ ขวัญบ้าน ขวัญเสาเรือน ขวัญเกวียน เป็นต้น
ในการประกอบพิธีฮ้องขวัญของชาวล้านนา ต้องอาศัยผู้ที่มีภูมิความรู้ความชำนาญในการจัดพิธีกรรม โดยผู้ประกอบพิธี ส่วนใหญ่เป็นเพศชายและผ่านการบวชมาแล้ว เรียกว่า หมอขวัญ อาจารย์วัด (ปู่วัด) พ่อหนาน ทำหน้าที่เป็นผู้เรียกขวัญใช้บทเรียก ขวัญที่มีเนื้อหาปฎิภาณไหวพริบโน้มน้าวเชิญชวนให้ขวัญกลับเข้ามา มีสำเนียงน้ำเสียงสุภาพอ่อนโยน มีภาษาบาลีประกอบบ้าง เพียงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความขลังและศักดิ์สิทธิ์ของพิธี
พิธีกรรม
การทำพิธีฮ้องขวัญ ท่านให้ทำขันครู (ขั้นตั้ง) ให้พ่อหมอหรืออาจารย์ผู้ทำพิธีนั้น
ขั้นตั้งครูอาจารย์
๑. สวยหมาก ๔ สวย
๒. พลู ๔ สวย
๓. สวยดอก ๔ สวย
๔. เทียนน้อย ๔ คู่
๕. เทียนเล่มละ ๑ บาท ๒ คู่
๖. ข้าวเปลือก ๑ ลิตร
๗. ข้าวสาร ๑ ลิตร
๘. เบี้ยพันสาม
๙. หมากพันสาม
๑๐. ผ้าขาว - ผ้าแดง
๑๑. เงิน ๓ บาท
แต่งดาใส่ขันตั้งให้หมด บายศรีฮ้องขวัญ การฮ้องขวัญนั้นให้แต่งเครื่องข้าวขวัญ
คือ ทำเครื่องขันบายศรีปักด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหลายสี หลายอย่างเป็นพุ่มพวงงาม
มีด้าย ๙ เส้นรอบเวียนบายศรี ข้างในขันให้ใส่ข้าวปลาอาหารต่าง ๆ พร้อมทั้งเครื่องคาว - หวาน
เมื่อแต่งดาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ทำพิธีฮ้องขวัญ การฮ้องขวัญ
การทำพิธีฮ้องขวัญ ท่านให้ทำขันครู (ขั้นตั้ง) ให้พ่อหมอหรืออาจารย์ผู้ทำพิธีนั้น
ขั้นตั้งครูอาจารย์
๑. สวยหมาก ๔ สวย
๒. พลู ๔ สวย
๓. สวยดอก ๔ สวย
๔. เทียนน้อย ๔ คู่
๕. เทียนเล่มละ ๑ บาท ๒ คู่
๖. ข้าวเปลือก ๑ ลิตร
๗. ข้าวสาร ๑ ลิตร
๘. เบี้ยพันสาม
๙. หมากพันสาม
๑๐. ผ้าขาว - ผ้าแดง
๑๑. เงิน ๓ บาท
แต่งดาใส่ขันตั้งให้หมด บายศรีฮ้องขวัญ การฮ้องขวัญนั้นให้แต่งเครื่องข้าวขวัญ
คือ ทำเครื่องขันบายศรีปักด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหลายสี หลายอย่างเป็นพุ่มพวงงาม
มีด้าย ๙ เส้นรอบเวียนบายศรี ข้างในขันให้ใส่ข้าวปลาอาหารต่าง ๆ พร้อมทั้งเครื่องคาว - หวาน
เมื่อแต่งดาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ทำพิธีฮ้องขวัญ การฮ้องขวัญ
ก่อนฮ้องขวัญต้องทำพิธีกล่าว ทำปัดเคราะห์ ปัดภัยเสียก่อน
โดยพ่อหมอหรืออาจารย์จะกล่าวคำปัดเคราะห์ ปัดภัยเป็นภาษาพื้นเมือง เมื่อกล่าวคำปัดเคราะห์
ปัดภัยเสร็จหมดแล้วจะทำพิธีกล่าวคำฮ้องขวัญต่อไป พร้อมทั้งมีการมัดมือด้วยด้าย ๙ เส้น
เริ่มจากข้อมือซ้ายก่อนแล้วมัดข้อมือขวา ในระหว่างที่มัดข้อมือ
พ่อหมอหรืออาจารย์ก็จะกล่าวคำให้พรตลอด จนกว่าจะเสร็จ
โดยพ่อหมอหรืออาจารย์จะกล่าวคำปัดเคราะห์ ปัดภัยเป็นภาษาพื้นเมือง เมื่อกล่าวคำปัดเคราะห์
ปัดภัยเสร็จหมดแล้วจะทำพิธีกล่าวคำฮ้องขวัญต่อไป พร้อมทั้งมีการมัดมือด้วยด้าย ๙ เส้น
เริ่มจากข้อมือซ้ายก่อนแล้วมัดข้อมือขวา ในระหว่างที่มัดข้อมือ
พ่อหมอหรืออาจารย์ก็จะกล่าวคำให้พรตลอด จนกว่าจะเสร็จ
สาระตั้งแต่โบราณมา คนพื้นเมืองเมื่อมีผู้ใดผู้หนึ่งเจ็บไข้ได้ป่วย
ผอมเหลืองกินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นเวลาหลายวัน หรือสะดุ้งตกใจกลัวเมื่อพบเห็นสิ่งที่หวาดเสียว
น่ากลัว และประสบปัทวเหตุสยดสยอง อาจทำให้ขวัญหนีดีฝ่อเหล่านี้
ญาติพี่น้องจะช่วยกันจัดแต่งขันตั้งเครื่องบายศรีเพื่อฮ้องขวัญให้กับผู้ ประสบเหตุนั้น
และเพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจและเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วย นั้น
ผอมเหลืองกินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นเวลาหลายวัน หรือสะดุ้งตกใจกลัวเมื่อพบเห็นสิ่งที่หวาดเสียว
น่ากลัว และประสบปัทวเหตุสยดสยอง อาจทำให้ขวัญหนีดีฝ่อเหล่านี้
ญาติพี่น้องจะช่วยกันจัดแต่งขันตั้งเครื่องบายศรีเพื่อฮ้องขวัญให้กับผู้ ประสบเหตุนั้น
และเพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจและเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วย นั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น